เผลอแป๊บเดียวก็จะถึงช่วงสิ้นปีแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่ยุ่งสุด ๆ สำหรับฝ่ายบัญชีและผู้ประกอบการ ที่ต้องจัดการเรื่องงานภาษี แต่ทุกภาระงานภาษีจะเป็นเรื่องง่ายขึ้น หากเปลี่ยนมาใช้ระบบ e-tax - e-Receipt ซึ่งกรมสรรพากรได้ให้สิทธิ์หักค่าใช้จ่ายจากการลงทุนได้ 2 เท่า สำหรับผู้ที่ลงทุนในระบบ และผู้ที่ใช้งานกับ Service Provider ระยะเวลาถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568นี้เท่านั้น ซึ่งวันนี้ เราจะมาดูกันว่า ใครที่ได้สิทธิ์บ้าง จะต้องทำอย่างไร และมีเงื่อนไขอะไรบ้าง
ลงทุนระบบ e-tax - e-Receipt ดียังไง
ในปัจจุบัน รัฐบาลได้มีความพยายามในการผลักดันการระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการช่วยเหลือบริษัท ห้างหุ้นส่วน นิติบุคคลต่าง ๆ ให้สามารถจัดการภาษีได้อย่างง่ายง่ายดาย ซึ่งการทำระบบ e-tax และ e-receipt นั้น มีข้อดีมากมาย ดังนี้
- ช่วยในเรื่องการจัดการภาษีให้คล่องตัว สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
- ลดข้อผิดพลาดในการจัดทำภาษี ด้วยระบบอัตโนมัติที่ดึงข้อมูลและส่งออกเอกสารให้ได้อย่างแม่นยำ ตรงตามแบบของกรมสรรพากร
- จัดเก็บเอกสารได้เป็นระบบ เมื่อต้องการเรียกใช้ก็สามารถค้นหาเอกสารได้ทันที
- ผู้ประกอบการไม่ต้องนำส่งเอกสารให้กรมสรรพากรเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปติดต่อราชการ รอคิว ประหยัดเวลาได้จริง
- ระบบมีความปลอดภัยขั้นสูง หมดห่วงเรื่องข้อมูลรั่วไหล
- ลดต้นทุนผู้ประกอบการได้จริง โดยที่ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียค่ากระดาษ หมึกพิมพ์ หรือค่าเดินทางเพื่อไปส่งเอกสารให้กรมสรรพากร
ใครบ้างที่ได้รับสิทธิประโยชน์
ผู้ที่มีสิทธิ์รับสิทธิประโยชน์นี้ คือบริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ใดก็ได้ ที่สนใจเปลี่ยนการออกใบกำกับภาษี ใบเสร็จให้มาเป็น e-Tax Invoice, e-Receipt, e-Withholding Tax
รายละเอียดในการลดหย่อนภาษี เมื่อลงทุนระบบ e-tax e-Receipt
บริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือนิติบุคคล จะมีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ด้วยการหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าจากที่ลงทุนไป โดยจะต้องมีการลงทุนในการทำระบบ e-Tax 3 ประเภท ดังนี้
- ลงทุนในระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt : จะเป็นการยกเว้นรายจ่ายที่ใช้ในการลงทุนในระบบจัดทำ รับข้อมูล จัดซื้อโปรแกรม จัดซื้ออุปกรณ์เก็บใบรับรองฯ จัดซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ต้องใช้ร่วมเพิ่มเติม
- ลงทุนในระบบ e-Withholding Tax : จะมีการยกเว้นรายจ่ายในการลงทุนในระบบนำส่งภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ซื้อโปรแกรม อุปกรณ์เก็บใบรับรองฯ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ต้องใช้ร่วมเพิ่มเติม
- การใช้บริการจากผู้ให้บริการระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt, e-Withholding Tax : จะมีการยกเว้นค่าบริการของผู้ให้บริการ หรือค่าบริการนำส่งข้อมูล ค่าบริการใบรับรอง ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บของมูล ค่าบริการของผู้ให้บริการนำส่งเงินภาษี ค่าบริการใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำส่งภาษีผ่านระบบ e-Withholding Tax
รายจ่ายที่สามารถลดหย่อนภาษี 100% เมื่อลงทุนระบบ e-tax e-Receipt มีอะไรบ้าง
- โปรแกรมคอมพิวเตอร์
- พื้นที่เก็บข้อมูล Server, Cloud
- เครื่องคอมพิวเตอร์
- อุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- เครื่องมือทำลายเซ็นดิจิทัล
- ค่าบริการที่จ่ายให้แก่ ผู้ให้บริการจัดทำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ผู้ให้บริการนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
- ค่าบริการใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์
- ค่าบริการที่จ่ายให้แก่ Service Provider
เงื่อนไขในการลงทุน
สำหรับผู้ที่ลงทุนในระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt และ e-Withholding Tax จะได้รับการลดหย่อนภาษีได้ เมื่อเข้าเงื่อนไขต่อไปนี้
- เป็นค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 – 31 ธันวาคม 2568
- ทรัพย์สินที่ลงทุนต้องไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน
- ทรัพย์สินที่ลงทุนเป็น ทรัพย์สินที่นำมาหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินได้ โดยต้องได้มาในสภาพพร้อมใช้งานภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568
- ทรัพย์สินนี้อยู่ในราชอาณาจักร
- ทรัพย์สินต้องถูกนำมาใช้งานไม่น้อยกว่า 3 รอบบัญชีติดกัน นับตั้งแต่รอบบัญชีแรกที่ได้มาและพร้อมใช้งาน
- ต้องไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่น หรือใช้ในกิจการที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายส่งเสริมการลงทุน
- การซ่อมแซมทรัพย์สินจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
ระยะเวลาของการลดหย่อนภาษี
1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
เปลี่ยนมาใช้ e-tax ยุ่งยากหรือไม่ ถ้าอยากเปลี่ยนต้องทำอย่างไร
การเปลี่ยนมาใช้ e-Tax e-Receipt ไม่ยุ่งยากเลยแม้แต่น้อย ด้วยการสมัครใช้งานกับ e-TaxGo คุณก็จะสามารถจัดการงานเอกสารภาษีได้แบบครบวงจร ซึ่ง e-TaxGo ได้รับการรับรองจาก etda พร้อมที่จะจัดทำและนำส่งภาษีของคุณไปให้กรมสรรพากรได้โดยตรง ซึ่งหากคุณสมัครใช้งานวันนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า และ e-TaxGo ยังมีโปรโมชั่น ใช้งานฟรี 50 Transaction อีกด้วย