ภาษีซื้อ ภาษีขาย คืออะไร? วิธีคำนวณและยื่น ภ.พ.30
ทำความเข้าใจเรื่อง เรื่องภาษีซื้อ-ภาษีขาย คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร การคำนวณ VAT และการยื่น ภพ30 สำหรับผู้ประกอบการ
Read Moreเมื่อมีการซื้อขายสินค้าแล้ว ผู้ซื้อจะต้องมีหลักฐานการซื้อขายที่แสดงให้เห็นชัดว่ามีการซื้อขายและรับชำระเงินเรียบร้อยเช่น ใบเสร็จรับเงิน และหากผู้ประกอบการนั้นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็ต้องมีการออกใบกำกับภาษีให้ผู้ซื้อด้วย แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมใบกำกับภาษีถึงต้องมี 2 รูปแบบ คือ ใบกำกับภาษีเต็มรูป และใบกำกับภาษีอย่างย่อ ทำไมไม่ออกแค่แบบเดียวไปเลย วันนี้เราจะมารู้จักความแตกต่างของเอกสาร 2 อย่างนี้กัน เพื่อที่ผู้ประกอบการ จะได้เลือกใช้ได้ถูก และออกเอกสารใบกำกับภาษีได้ถูกต้อง
ใบกำกับภาษีเต็มรูป คือ หลักฐานที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้ออกให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือบริการ โดยมีการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า ผู้ซื้อ ผู้ขาย เลขที่ผู้เสียภาษี จำนวนภาษีที่จ่ายไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งโดยปกติแล้ว เมื่อลูกค้าซื้อของจากร้านค้า ร้านค้ามักจะออกใบเสร็จ หรือ ใบกำกับภาษีอย่างย่อให้ หากลูกค้าต้องการใบกำกับภาษีเต็มรูป จะต้องมีการร้องขอจากทางร้านเอง
ทั้งนี้ ใบกำกับภาษีเต็มรูป สามารถนำไปใช้ประกอบการยื่นภาษี และใช้บันทึกเป็นภาษีซื้อได้ และเมื่อมีการจัดทำนั้น สามารถทำได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษในฉบับเดียวกัน และตัวเลขที่ใช้จะเป็นตัวเลขไทยหรือตัวเลขอารบิกก็ได้
การออกใบกำกับภาษี โดยส่วนมากแล้วจะเป็นการออกแบบวันต่อวัน และลูกค้าจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนการออกใบกำกับภาษี หากพบว่าข้อมูลผิดสามารถแจ้งได้ หรือในปัจจุบันหากมีการซื้อขายสินค้าออนไลน์และมีการให้ออกใบกำกับภาษี อาจจะมีการระบุว่าผู้ซื้อสามารถแก้ไขใบกำกับภาษีได้กี่ครั้ง
เหตุผลที่ร้านค้าส่วนมาก ไม่ออกใบกำกับภาษีย้อนหลังนั้น เป็นเพราะเอกสารใบกำกับภาษีจะมีการจัดเรียงลำดับเลขเอาไว้ เพื่อใช้ในการค้นหาและตรวจสอบภายหลัง ควบคุมระบบบัญชีให้มีระบบระเบียบ หากมีการออกใบกำกับภาษีย้อนหลังแล้ว จะไปกระทบทำให้เกิดความยุ่งยากในการจัดเรียงเลขเอกสาร และจะไปกระทบต่อที่ 2 กับเรื่องการรับรู้รายได้และภาษี เนื่องจากร้านค้าหลายร้านสรุปยอดขายกันเป็นวัน หากมีการออกใบกำกับภาษีย้อนหลัง จะไปกระทบกับทุกส่วนโดยเฉพาะในส่วนของรายได้และภาษี และหากสรรพากรตรวจสอบและพบความผิดปกติ ร้านค้าอาจจะถูกปรับได้
ธุรกิจที่สามารถออกใบกำกับภาษีได้ คือธุรกิจที่ผ่านการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว และมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อไป เช่น ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ขนส่ง โฆษณา รับออกแบบ รับให้คำปรึกษา และอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจบางประเภทแม้ว่าจะมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น ธุรกิจด้านเกษตร สถานพยาบาล ห้องสมุด ขนส่งในประทศ ฯลฯ รวมไปถึงผู้ประกอบการที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ก็ได้รับการยกเว้นเช่นกัน
คำนี้จะต้องเห็นเด่นชัด เพราะเป็นเงื่อนไขทางกฎหมาย หากมีการออกใบกำกับภาษีพร้อมเอกสารอื่น เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบส่งของ จะต้องมีการระบุว่า "เอกสารออกเป็นชุด" และหากมีการทำสำเนาใบกำกับภาษี จะต้องมีการระบุว่า "สำเนาใบกำกับภาษี" บนเอกสารด้วย
ในส่วนนี้จะเป็นชื่อบริษัทของผู้ขาย ที่อยู่ของสถานประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หากมีสถานประกอบการหลายแห่ง ต้องมีการระบุว่าเป็นสำนักงานใหญ่ หรือหากเป็นสาขา ต้องมีการวงเล็บชื่อสาขาไว้ด้วย ส่วนเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร คือเลขทะเบียนนิติบุคคล ในกรณีที่เป็นนิติบุคคล หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา
ต้องมีการระบุถึงรายละเอียดของผู้ซื้อว่าเป็นใคร หากเป็นนิติบุคคลจะต้องมีการระบุที่อยู่ที่เป็นที่ตั้งของสถานประกอบการ และหากเป็นบุคคลธรรมดา จะต้องระบุที่อยู่ตามบัตรประชาชน ส่วนเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร คือเลขทะเบียนนิติบุคคล ในกรณีที่เป็นนิติบุคคล หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา
การออกใบกำกับภาษีจะต้องมีการระบุเลขที่เอกสารเอาไว้ เพื่อใช้ในการตรวจสอบค้นหาในภายหลัง และใช้สำหรับลงภาษีซื้อ หากไม่มีเลขลำดับ จะทำให้ลงภาษีซื้อไม่ได้
จะต้องมีการแจกแจงอย่างละเอียดว่า สินค้านั้นเป็นสินค้าอะไร จำนวนเท่าไร ราคาต่อหน่วยเท่าไร จำนวนเงิน หากสินค้าหรือบริการนั้นไม่จำเป็นต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องมีการแยกรายการและทำเครื่องหมายให้ชัดเจน
เป็นการคำนวณจากมูลค่าของสินค้าและบริการ และมีการแยกออกมาจากมูลค่ารวมของสินค้าให้ชัดเจน
ต้องมีการระบุส่วนนี้อย่างชัดเจน เพื่อแสดงว่ามีการซื้อขาย ชำระเงิน ส่งมอบสินค้า และเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นจริง
ใบกำกับภาษีอย่างย่อ คือเอกสารที่ผู้ขายออกให้กับผู้ซื้อ เพื่อใช้ยืนยันว่ามีการซื้อขายสินค้า และมีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มขึ้นจริง โดยที่ผู้ที่ออกใบกำกับภาษีอย่างย่อนั้น มักจะเป็นผู้ประกอบการที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีการขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าโดยตรง
ผู้ขายมีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีอย่างย่อให้กับผู้ซื้อทันทีที่ได้รับสินค้าหรือบริการ และหากมีการร้องขอใบกำกับภาษีเต็มรูป ผู้ขายก็ต้องออกให้ผู้ซื้อด้วย ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นการเอาใบกำกับภาษีอย่างย่อมาแลกเป็นใบกำกับภาษีเต็มรูป
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการออกใบกำกับภาษีอย่างย่อด้วยเครื่องเก็บเงิน หรือ POS การออกใบกำกับภาษีอย่างย่อจะมีจุดแตกต่างคือ
การออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ ไม่จำเป็นต้องออกด้วยเครื่องเก็บเงินเพียงเดียว โดยที่ผู้ขายสามารถกำหนดรูปแบบของใบกำกับภาษีอย่างย่อเอง และออกให้ผู้ซื้อได้เลย เนื่องจากใบกำกับภาษีอย่างย่อไม่สามารถเอาไปลงภาษีซื้อได้ แต่การออกใบกำกับภาษีอย่างย่อด้วยเครื่องเก็บเงินนั้น อำนวยความสะดวกหลายอย่างในการเห็นต้นทุน เห็นยอดขาย เห็นรายการขาย และเห็นจำนวนภาษีที่ต้องเสีย ดังนั้น หลายรายเมื่อมีการประกอบกิจการ จึงมักมีเครื่องเก็บเงินเอาไว้
ทั้งนี้ การทำเครื่องเก็บเงิน จะต้องมีการยื่นแบบตามที่กรมสรรพากรกำหนด, มีการระบุคุณสมบัติ รายละเอียด จำนวนเครื่องบันทึกการเก็บเงิน, แผนผังที่วางของเครื่องเก็บเงิน, หากเครื่องเก็บเงินเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ ต้องมีการระบุแผนผังการเชื่อมต่อด้วย, และตัวอย่างใบกำกับภาษีอย่างย่อ ตัวอย่างรายงานการขายประจำวันที่ออกด้วยเครื่องเก็บเงิน
สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนสับสนคือ ใบกำกับภาษีอย่างย่อ และใบเสร็จรับเงิน ว่าแตกต่างกะนอย่างไร ซึ่งในแง่ของกฎหมายแล้ว เอกสารทั้ง 2 ใบมีจุดประสงค์ในการใช้ที่คล้ายกัน คือเพื่อเป็นหลักฐานว่ามีการได้รับชำระเงินเรียบร้อย ทว่าข้อแตกต่างคือ คนที่ออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้ คือผู้ประกอบการที่มีการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม และในเอกสารจะต้องมีการระบุว่า “ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ในขณะที่ใบเสร็จรับเงิน ผู้ประกอบการไม่จำเป็นจะต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม และในใบเสร็จนั้น จะระบุแค่จำนวนเงินที่ได้รับเท่านั้น ไม่มีการคิดภาษีแต่อย่างใด
ภาพจาก กรมสรรพากร
การเลือกใช้ใบกำกับภาษีอย่างย่อหรือเต็มรูปนั้น มีปัจจัยหลายประการ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ประเภทกิจการ ประเภทสินค้าและบริการ ดังนี้
ใบกำกับภาษีอย่างย่อ | ใบกำกับภาษีเต็มรูป | |
---|---|---|
สถานการณ์ | เมื่อมีการซื้อสินค้า ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องออกใบกำกับภาษีอย่างย่อให้ทันที | ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถออกใบกำกับภาษีเต็มรูปได้ เมื่อผู้ซื้อร้องขอ |
รายละเอียด | ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ไม่จำเป็นต้องชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อ และรายละเอียดสินค้า สามารถใช้เป็นรหัสได้ | ใบกำกับภาษีเต็มรูป ต้องมี ชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อเด่นชัด ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ และรายละเอียดสินค้า จะต้องแสดงข้อมูลเต็ม |
ภาษีมูลค่าเพิ่ม | ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ไม่จำเป็นต้องแจกแจงว่ามีภาษีมูลค่าเพิ่มเท่าไร แต่ต้องระบุว่า ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม | ใบกำกับภาษีเต็มรูป ต้องมีการแจกแจงจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บอย่างชัดเจน |
ภาษีซื้อ ภาษีขาย | ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ไม่สามารถเอาไปลงในภาษีซื้อได้ | ใบกำกับภาษีเต็มรูป สามารถนำไปลงในภาษีซื้อได้ |
การลดหย่อนภาษี | ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ไม่สามารถนำไปใช้ยื่นภาษีได้ เป็นเพียงหลักฐานแสดงการซื้อขายเท่านั้น | ใบกำกับภาษีเต็มรูป สามารถนำไปลดหย่อนภาษีตามมาตรการของรัฐบาลได้ |
ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ eTax ได้ที่
Blog: www.etaxgo.com/blog
Facebook: https://www.facebook.com/eTaxGo.official
Tags
ใบกำกับภาษี
ทำความเข้าใจเรื่อง เรื่องภาษีซื้อ-ภาษีขาย คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร การคำนวณ VAT และการยื่น ภพ30 สำหรับผู้ประกอบการ
Read Moreวิธีเสียภาษี ขายของออนไลน์ อย่างถูกต้อง ครอบคลุมภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา VAT การหักค่าใช้จ่าย ทั้งการเสียภาษีแบบเหมา และหักตามจริง มีคำตอบ
Read Moreเลขประจำตัวผู้เสียภาษี คืออะไร วิธีการขอ เอกสารที่ต้องใช้ สำหรับทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ความแตกต่างกับเลขประจำตัวประชาชน และเลขทะเบียนนิติบุคคล
Read More