ใกล้เข้าสู่ช่วงปีใหม่และฤดูกาลภาษีแล้ว ก็ถึงเวลาผู้มีรายได้ ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลประจำปี ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด.91และหนึ่งในวิธีการที่จะประหยัดภาษีได้ ก็คือการซื้อประกันลดหย่อนภาษี ทว่า ประกันลดหย่อนภาษีมีหลายแบบ และหลายคนอาจจะเกิดข้อสงสัยว่าแบบไหนคุ้มค่าที่สุด เพราะเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายก็ไม่น้อย และเป็นเงินที่ต้องจ่ายกันระยะยาว ซึ่งวันนี้เราจะมีพูดถึงเรื่องนี้กัน

ประกันลดหย่อนภาษี คืออะไร

ประกันลดหย่อนภาษี คือ การนำเงินเบี้ยประกันที่ซื้อประกันในปีภาษีนั้น ๆ มาลดหย่อนภาษี เงินได้บุคคลประจำปี ซึ่งการที่เราจะลดได้มากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของประกัน ฐานภาษี และเบี้ยประกัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ด้วย

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องคำนึงคือ ไม่ใช่ประกันทุกแบบจะสามารถลดหย่อนภาษีได้ เช่น ประกันที่ซื้อให้ลูก ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันกลุ่มจากบริษัท แบบนี้จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้

ประกันลดหย่อนภาษี มีกี่แบบ

โดยรวมแล้ว ประกันสำหรับลดหย่อนภาษีมีทั้งหมด 4 แบบ ดังต่อไปนี้

ประกันชีวิต

ประกันชีวิตเป็นประกันที่จะคุ้มครองก็ต่อเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต โดยจะมีการจ่ายเงินให้กับผู้รับประโยชน์แทน หรือหากผู้เอาประกันไม่ได้เสียชีวิต ก็สามารถรับเงินคืนได้ระหว่างทางและรับเงินโบนัสเมื่ออยู่ครบสัญญา การทำประกันชีวิตเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงและทำให้คนที่อยู่ข้างหลังหมดห่วง โดยที่ประกันชีวิตที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ จะแบ่งออกเป็น

  • ประกันชีวิตตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบนี้จะเป็นการที่ผู้เอาประกันจ่ายค่าเบี้ยประกันไปตามช่วงระยะเวลาในสัญญา หากระหว่างนั้นผู้เอาประกันเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์ก็จะได้รับเงินตามที่ระบุเอาไว้ แต่หากผู้เอาประกันไม่เสียชีวิตและอยู่ครบสัญญาตามเงื่อนไข ผู้เอาประกันก็จะได้รับเงินคืนแทน
  • ประกันชีวิตชั่วระยะ ประกันชีวิตแบบนี้ ผู้เอาประกันจะจ่ายเบี้ยประกันไปจนถึงช่วงระยะเวลาหนึ่ง และหากผู้เอาประกันเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์ถึงจะได้รับทุนประกันคืน แต่หากผู้เอาประกันไม่เสียชีวิต ก็จะไม่มีการคืนเงินให้แต่อย่างใด
  • ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ / ประกันชีวิตออมทรัพย์ คือประกันชีวิตที่หากผู้เอาประกันเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์ก็จะได้เงินคืนจากผู้เอาประกัน แต่ในระหว่างที่อยู่ในระยะประกันแล้วผู้เอาประกันไม่ได้เสียชีวิต ก็จะมีเงินคืนให้เป็นระยะ ๆ และหากอยู่จนครบสัญญา ก็จะมีผลประโยชน์ก้อนใหญ่กลับคืนมาให้
  • ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked) คือประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองชีวิต และนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมด้วย ซึ่งประกันแบบนี้จะมีเงินคืนให้ตามผลตอบแทนของกองทุนที่ได้ลงทุนไป โดยอาจจะไม่ได้การันตีเงินต้น และอาจจะมีเงินคืนให้ระหว่างสัญญา โดยอาจจะเป็นการคืนเงินสดหรือเป็นมูลค่าหน่วยลงทุน

ประกันชีวิตแบบบำนาญ

คือประกันชีวิตที่ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายเงินตอนนี้ และจะได้รับเงินคืนเป็นรายงวดเมื่อถึงอายุบำนาญ เช่น 55–60 ปี จากนั้นบริษัทประกันจะจ่ายเงินรายเดือนให้ทุกเดือน ไปจนกว่าผู้เอาประกันจะเสียชีวิตหรือถึงอายุที่ระบุเอาไว้ในสัญญา แต่หากก่อนที่จะเกษียณอายุ ผู้เอาประกันได้เสียชีวิตก่อน ก็จะมีการจ่ายเงินให้ผู้รับผลประโยชน์แทน

ทั้งนี้ ประกันชีวิตแบบบำนาญจะเป็นการสร้างความมั่นคง ผู้เอาประกันมีเงินใช้แน่นอนเมื่อเกษียณอายุ แต่มีข้อเสียคือผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ และความคุ้มครองจะต่ำกว่าประกันชีวิตแบบชั่วระยะและประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เพราะมีการจ่ายเงินให้ตอนเกษียณ

ประกันสุขภาพตนเอง

ประกันสุขภาพตนเอง จะเป็นการซื้อประกันที่เน้นความคุ้มครองในการรักษาพยาบาล ตั้งแต่การเจ็บป่วยเล็กน้อย ไปจนถึงการป่วยหนักและอุบัติเหตุ ช่วยในการลดความเสี่ยงในเรื่องการจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่สูง ทำให้ไม่กระทบภาวะทางการเงิน และได้รับการรักษาที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ ประกันสุขภาพที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ คือประกันสุขภาพส่วนบุคคลเท่านั้น โดยเป็นได้ทั้งประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย หรือประกันสุขภาพที่จ่ายเงินเป็นรายเดือน แต่ประกันสุขภาพที่ไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ คือประกันสุขภาพแบบกลุ่ม

ประกันสุขภาพพ่อแม่

คือการซื้อประกันสุขภาพ แต่ซื้อให้กับคุณพ่อคุณแม่ของตนเองหรือคู่สมรส การซื้อประกันสุขภาพแบบนี้จะเหมือนการซื้อประกันสุขภาพตนเอง และเอาเบี้ยประกันที่จ่ายในแต่ละปีมาหักลดหย่อนภาษี แต่จำนวนที่ลดหย่อนได้นั้นจะไม่เท่าประกันสุขภาพตนเอง

ประกันลดหย่อนภาษีได้เท่าไร

ประกันแต่ละแบบนั้น มีการหักลดหย่อนภาษีที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. ประกันชีวิต

ประกันชีวิตตลอดชีพ ชั่วระยะ และสะสมทรัพย์ ที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ต้องเป็นประกันชีวิตที่กรมธรรม์อายุ 10 ปีขึ้นไป สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนกรมธรรม์ที่ได้ผลตอบแทนคืนทุกปีระหว่างทาง ต้องได้รับเงินคืนไม่เกินร้อยละ 20 ของเบี้ยประกันรายปี และหากเป็นกรณีที่กรมธรรม์จ่ายเงินคืนตามช่วงเวลา เงินที่ได้คืนต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของเบี้ยสะสมของแต่ละช่วงเวลาด้วย

ส่วนประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit Linked) จะต้องแบ่งเบี้ยประกันออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนการประกันภัย ค่าใช้จ่ายของกรมธรรม์ และส่วนของการลงทุน โดยเมื่อจะมีการนำเงินมาคำนวณเป็นค่าลดหย่อนภาษี จะต้องคำนวณแค่ในส่วนของการประกันภัยและค่าใช้จ่ายของกรมธรรม์เท่านั้น สามารถนำไปลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท ส่วนของการลงทุนจะไม่ถูกนำมาคำนวณด้วย

ในกรณีที่คู่สมรสมีประกันชีวิต และมีการจ่ายเบี้ยประกัน ก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน แต่คู่สมรสต้องไม่มีเงินได้ และลดหย่อนได้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท

2. ประกันบำนาญ

ได้รับสิทธิ์ลดหย่อน 15% ของรายได้ แต่สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท หากมีการทำประกันชีวิตแบบบำนาญและประกันชีวิตทั่วไป สามารถนำเบี้ยประกันบำนาญไปรวมกับเบี้ยประกันชีวิตได้ และลดหย่อนได้จนกว่าจะครบสิทธิ์เบี้ยประกันชีวิต 100,000 บาท

แต่ในกรณีที่ไม่ได้ซื้อประกันชีวิตเอาไว้ สามารถนำประกันบำนาญไปลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท โดยที่ประกันบำนาญจะเป็นการลดหย่อนภาษีตั้งแต่ 100,000 บาทแรกไปจนถึง 200,000 บาทหลัง

ประกันสุขภาพตนเอง ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 25,000 บาท หากมีการทำประกันชีวิตไว้ สามารถนำประกันสุขภาพตนเองมารวมกันกับประกันชีวิต แต่ลดหย่อนสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

ประกันสุขภาพพ่อแม่ ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท โดยที่บิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรสต้องมีเงินได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี หากมีการซื้อกับพี่น้อง สามารถแบ่งกันลดหย่อนได้

ข้อจำกัดของการซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษี

  • ในกรณีที่เป็นประกันชีวิต หากมีการยกเลิกสัญญา เวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบ 10 ปี จะไม่สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ และต้องคืนภาษีย้อนหลังของภาษีที่ลดหย่อนไปพร้อมดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่จ่าย
  • การทำประกันใด ๆ ควรมองที่ความคุ้มครองเป็นหลัก การลดหย่อนภาษีเป็นรอง และต้องมีการประเมินตนเองด้วยว่าสามารถจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันตลอดระยะเวลาสัญญาได้หรือไม่ เพราะประกันถือเป็นความผูกพันระยะยาว การยกเลิกสัญญาใด ๆ มักมีผลตามมาเสมอ
  • เบี้ยประกันบำนาญ หากมีการรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุน กบข. กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน และค่าซื้อหน่วย RMF รวมแล้วจะต้องไม่เกิน 500,000 บาท

ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ eTax ได้ที่
Blog:
www.etaxgo.com/blog
Facebook: https://www.facebook.com/eTaxGo.official


Tags

ประกันลดหย่อนภาษี


บทความที่น่าสนใจ

ภ.ง.ด. 3 ภาษีที่ต้องเข้าใจ แตกต่างอย่างไรกับ ภ.ง.ด. 53

สรุปภาษี ภ.ง.ด. 3 และ ภ.ง.ด. 53 ว่าควรหักใคร ยื่นเมื่อไหร่ และอัตราการหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับรายได้แต่ละประเภท สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องรู้

Read More

Service Provider Advanced คืออะไร ต้องรู้ก่อนเริ่มใช้งาน e-tax

Service Provider Advanced ผู้ช่วยจัดทำ e-Tax Invoice & e-Receipt ที่ปลอดภัย มาตรฐานสูง และความแตกต่างกับ Service Provider พื้นฐาน ช่วยให้ธุรกิจออกใบกำกับภาษีได้ถูกต้องตามสรรพากร

Read More