ภาษีครึ่งปี ภ.ง.ด.94 บุคคลธรรมดา ใครบ้างที่ต้องยื่น

ใกล้หมดเขตกันแล้วกับการยื่นภาษีครึ่งปี ภ.ง.ด.94 ซึ่งเป็นการคิดภาษีในช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน ของทุกปี โดยแม้ว่าคนอาจจะไม่ตื่นตัวกับการยื่นภาษีครึ่งปีเท่ากับการยื่นภาษีประจำปี แต่สำหรับผู้ที่มีอาชีพขายของออนไลน์ รับเหมา หรือมีรายได้พิเศษ มีความจำเป็นที่จะต้องรู้จักภาษีครึ่งปี มิเช่นนั้นอาจจะพบปัญหาในช่วงการยื่นภาษีปลายปี ทั้งค่าปรับ ดอกเบี้ย และต้องจ่ายเงินคืน ซึ่งวันนี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับภาษีครึ่งปีกัน

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี หรือ ภ.ง.ด.94 คืออะไร

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี หรือ ภ.ง.ด.94 คือ ภาษีที่แบ่งชำระได้ภายในครึ่งปี สำหรับทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งภาษีครึ่งปีมีส่วนช่วยในการบริหาร Cash Flow แบ่งเบาภาระภาษี ไม่ต้องไปจ่ายครั้งเดียวก้อนใหญ่ตอนปลายปี และยังช่วยให้เราเห็นสภาพคล่อง รายรับรายจ่าย เข้าใจภาพรวมของธุรกิจได้มากขึ้น

ใครบ้างที่ต้องยื่น ภ.ง.ด.94 ภาษีครึ่งปี

ในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดานั้น ผู้ที่มีหน้าที่ยื่นภาษีครึ่งปี คือผู้มีเงินได้ตามมาตรา 40 (5)-40 (8) โดยนับช่วงที่มีรายได้ในระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายน ตามเกณฑ์ดังนี้

1. ผู้ที่เป็นโสด มีเงินได้พึงประเมินเกิน 60,000 บาท
2. ผู้ที่มีคู่สมรส มีเงินได้พึงประเมินเกิน 120,000 บาท

ในส่วนของเงินได้มาตรา 40 (5)-40 (8) มีดังต่อไปนี้

• เงินได้ตามมาตรา 40 (5): เงินได้จากการเช่าทรัพย์สิน สัญญาเช่าซื้อ สัญญาเงินผ่อน รวมไปถึงเงินได้จากการผิดสัญญาด้วย
• เงินได้ตามมาตรา 40 (6): เงินได้จากวิชาชีพอิสระ เช่น หมอ นักกฎหมาย วิศวกร สถาปนิก นักบัญชี และประณีตศิลปกรรม
• เงินได้ตามมาตรา 40 (7): เงินได้จากการรับเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ และผู้รับเงินมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เช่นการรับเหมาก่อสร้าง รับเหมาซ่อมบ้าน 
• เงินได้ตามมาตรา 40 (8): เงินได้การพาณิชย์ หรือเงินได้อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินได้ตามมาตรา 40 (1)-40 (7) เช่น เงินได้จากการชิงโชค ขายอสังหาริมทรัพย์ ขายของออนไลน์ เป็นต้น

ตัวอย่างของคนที่ต้องยื่นภาษีครึ่งปี

ตัวอย่างที่ 1

นายอรรถพงศ์เป็นชายโสด มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัท รับเงินเดือนที่เดือนละ 20,000 บาท และมีรายได้เสริมจากการให้เช่าคอนโด เดือนละ 15,000 บาท รวม 6 เดือนเป็นเงิน 90,000 บาท ในกรณีนี้นายอรรถพงศ์มีรายได้ประเภทที่ 5 เกิน 60,000 บาท นายอรรถพงศ์ต้องยื่นภาษีครึ่งปี โดยเงินที่ต้องนำมาคำนวณนั้นคือเงินค่าเช่าบ้านอย่างเดียว

ตัวอย่างที่ 2

นายอรรถวัฒน์ มีอาชีพเป็นฟรีแลนซ์รับจ้างทำเว็บไซต์ ครึ่งปีมีรายได้ 100,000 บาท และทำงานขายของออนไลน์เป็นอาชีพเสริม ครึ่งปีมีรายได้ 50,000 บาท ในกรณีนี้ เงินรายได้จากการรับจ้างฟรีแลนซ์ของนายอรรถวัฒน์ ถือเป็นเงินได้ประเภท 40(2) ไม่ต้องถูกนำมานับรวมเป็นภาษีครึ่งปี ส่วนเงินได้จากการขายของออนไลน์ ถือเป็นรายได้ประเภท 40 (8) แต่เนื่องจากรายได้จากการขายของออนไลน์ไม่ถึง 60,000 บาท ทำให้นายอรรถวัฒน์ไม่ต้องยื่นภาษีครึ่งปี

ตัวอย่างที่ 3

นายสุวัฒน์ มีอาชีพเป็นยูทูบเบอร์ มีรายได้ครึ่งปี 50,000 บาท และในช่วงครึ่งปีนั้น นายสุวัฒน์ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เงินมาทั้งสิ้น 200,000 บาท ในกรณีนี้เท่ากับว่า นายสุวัฒน์ต้องยื่นภาษีครึ่งปี โดยส่วนที่นำมาคิดคือเงินรายได้จากการเป็นยูทูบเบอร์และจากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมเป็น 250,000 บาท

ภาษีครึ่งปี ยื่นตอนไหน

ภาษีครึ่งปี สามารถยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน และหากยื่นภาษีออนไลน์ จะขยับไปได้จนถึงวันที่ 8 ตุลาคม และหากวันที่ 8 ตุลาคมตรงกับวันหยุด ให้เลื่อนออกไปเป็นวันทำการถัดไป

ภาษีครึ่งปี ภ.ง.ด.94 และ ภ.ง.ด.90 ต่างกันตรงไหน

• ช่วงเวลาในการคำนวณ: ภ.ง.ด.94 หรือภาษีครึ่งปี จะนับรายได้ตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน ส่วน ภ.ง.ด.90 จะนับรายได้ตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม
• ค่าลดหย่อน: ประเภทของค่าลดหย่อนของ ภ.ง.ด.94 และ ภ.ง.ด.90 มีความเหมือนกัน แต่จำนวนเงินที่หักได้นั้นจะต่างกัน
• วิธีการยื่น: การยื่นภาษี ภ.ง.ด.94 และ ภ.ง.ด.90 สามารถยื่นผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้เหมือนกัน แต่เมื่อเลือกประเภทของภาษีครึ่งปี จะมีแค่รายได้ประเภท 40(5)-40(8) เท่านั้น

ลดหย่อนภาษีครึ่งปี มีอะไรบ้าง

ค่าลดหย่อนภาษีครึ่งปี จะมีความคล้ายกับค่าลดหย่อนภาษีประจำปี แต่มีจุดที่ต้องระวังคือ จำนวนเงินที่ได้รับการลดหย่อนนั้นจะไม่เท่ากัน ในบางประเภท ค่าลดหย่อนสามารถใช้ได้เต็มจำนวน ค่าลดหย่อนบางอย่างสามารถใช้ได้เพียงครึ่งเดียว ยกตัวอย่างเช่น

• ค่าลดหย่อนตัวเอง: 30,000 บาท จากเงินเต็มจำนวน 60,000 บาท
• ค่าลดหย่อนคู่สมรสที่ไม่มีรายได้: 30,000 บาท จากเงินเต็มจำนวน 60,000 บาท
• ค่าลดหย่อนบุตร: คนละ 15,000 บาท จากเงินเต็มจำนวน 30,000 บาท และบุตรที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 ลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท
• ค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา: คนละ 15,000 บาท จากเงินเต็มจำนวน 30,000 บาท
• ค่าอุปการะผู้พิการหรือทุพพลภาพ: คนละ 30,000 บาท จากเงินเต็มจำนวน 60,000 บาท
• ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต: เมื่อรวมกับเบี้ยสุขภาพแล้ว สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 95,000 บาท โดยต้อง อนุมัติภายใน 30 มิถุนายน จึงนำมาใช้ลดหย่อนภาษีครึ่งปีได้
• ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตคู่สมรส: ลดหย่อนได้ 5,000 บาท จากเงินจำนวนเต็ม 10,000 บาท
• ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพ: ลดหย่อนได้ 25,000 บาท
• ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพบิดา/มารดา: ลดหย่อนได้ 15,000 บาท
• ค่าลดหย่อนประกันบำนาญ: ลดหย่อนได้สูงสุด 200,000 บาท แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ครึ่งปีแรกก่อนหักค่าลดหย่อน
• ประกันสังคม: ม.33 ลดหย่อนได้ตามจริงไม่เกิน 4,500 บาท, ม.39 ไม่เกิน 2,592 บาท, ม.40 แล้วแต่ทางเลือก
• RMF: สูงสุด 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ครึ่งปีแรกก่อนหักค่าลดหย่อน
• ThaiESG: สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 30% ของรายได้ครึ่งปีแรกก่อนหักค่าลดหย่อน
• กองทุนการออมแห่งชาติ: สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท
• ดอกเบี้ยบ้าน: 95,000 บาท
• กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กบข. กองทุนครู: ลดหย่อนภาษีครึ่งปีไม่ได้

หากไม่ยื่นภาษีครึ่งปี จะเกิดอะไรขึ้น

ในกรณีที่เราเข้าข่ายต้องยื่นภาษีครึ่งปี แล้วไม่ยื่นภาษีครึ่งปี สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือเมื่อเรายื่นภาษีปลายปี หากมีการคำนวณภาษีครึ่งปีแล้วพบว่ามีภาษีที่ต้องชำระ แต่ไม่ได้ชำระจะถูกคิดดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือน แต่หากมีภาษีที่ต้องขอคืน เจ้าหน้าที่มักจะบอกให้เรายื่นแบบให้ถูกต้อง โดยจะเสียค่าปรับในการยื่นแบบ 200 บาท และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่มเติม