ภาษีซื้อ ภาษีขาย ถือเป็นภาษีที่ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต้องเจอทุกคน และต้องมีการกรอกเอกสาร ภ.พ.30 เพื่อยื่นแบบแสดงรายการในเดือนถัดไป แต่หากใบกำกับภาษีซื้อที่เราได้ ได้มาวันที่ 31 และทำการยื่นภาษีซื้อ - ภาษีขายไม่ทัน จะทำอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบให้สำหรับเรื่องนี้
ประเภทของใบกำกับภาษี
สำหรับกิจการที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล จะต้องทำการยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรภายใน 30 วัน และเมื่อมีการซื้อขายสินค้าและเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องมีการออกใบกำกับภาษี ให้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ หรือใบกำกับภาษีอย่างย่อ
ทั้งนี้ กรมสรรพากรได้กำหนดรูปแบบของใบกำกับภาษีไว้ 7 รูปแบบดังนี้
- ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
- ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ
- ใบเพิ่มหนี้
- ใบลดหนี้
- ใบเสร็จรับเงินที่ส่วนราชการออกให้ในการขายทอดตลาด
- ใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่ออกให้สำหรับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ใบเสร็จรับเงินของกรมศุลกากร หรือกรมสรรพสามิตออกให้ในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม
สำหรับกิจการทั่วไปแล้ว จะใช้ใบกำกับภาษีที่เป็นใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ และใบกำกับภาษีอย่างย่อ ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ เพื่อทำการลงบัญชีบริษัท และภาษีที่ได้จะนำมาเป็นเครดิตภาษีเพื่อหักหักภาษีซื้อ ภาษีขาย ใช้ในการยื่นภาษีและส่งให้กรมสรรพากรต่อไป
ใบกำกับภาษีซื้อ คืออะไร แตกต่างอย่างไรกับใบกำกับภาษีขาย
ใบกำกับภาษีซื้อ คือ ใบกำกับภาษีที่เราได้รับ อันเนื่องมาจากการที่เราจ่ายเงินภาษีมูลค่าเพิ่มกับผู้อื่น เพราะเราไป “ซื้อ” สินค้าและมีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มมา แตกต่างกับใบกำกับภาษีขาย ที่เป็นใบกำกับภาษีที่เราออกมาให้ผู้อื่น และเราเป็นฝ่ายเรียกเก็บเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม อันเนื่องมาจากการที่เรา “ขาย” สินค้าให้ผู้อื่นนั่นเอง
ทั้งนี้ แม้เราจะขายสินค้าได้ และต้องเอามาลงบัญชีเพื่อทำภาษีซื้อ ภาษีขาย แต่ก็มีสินค้าบางรายการที่ไม่สามารถนำใบกำกับภาษีซื้อมาลงได้ เช่น ไม่มีใบกำกับภาษี, ใบกำกับภาษีมีข้อความไม่สมบูรณ์, ใบกำกับภาษีนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการ, ภาษีค่ารับรองตามมาตรา 65 ตรี (4), ผู้ออกใบกำกับไม่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษี เป็นต้น
ใบกำกับภาษีซื้อ ใช้ได้กี่เดือน นับอย่างไร
โดยส่วนมากแล้ว ใบกำกับภาษีที่เกิดขึ้นในเดือนไหน จะต้องมีการยื่นในเดือนนั้น เพื่อขอคืนเครดิตภาษี หากไม่ยื่นภายในเดือนจะหมดสิทธิ์ใช้ทันที แต่เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิด เพราะในความเป็นจริง ใบกำกับภาษีซื้อสามารถใช้ได้ถึง 6 เดือน โดยการนับ จะนับตั้งแต่จากเดือนที่อยู่ในใบกำกับภาษีเป็นเดือนที่ 0 นับไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลา 6 เดือน เช่น
- ออกใบกำกับภาษี ลงวันที่ในเดือนธันวาคม = เดือนที่ 0
- เดือนมกราคม = เดือนที่ 1
- เดือนกุมภาพันธ์ = เดือนที่ 2
- เดือนมีนาคม = เดือนที่ 3
- เดือนเมษายน = เดือนที่ 4
- เดือนพฤษภาคม = เดือนที่ 5
- เดือนมิถุนายน = เดือนที่ 6 = เดือนสุดท้ายที่ใบกำกับภาษีนั้นจะใช้ยื่นได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องพึงระวังมีดังนี้
- การใช้ใบกำกับภาษีซื้อย้อนหลัง ผู้ประกอบการจดทะเบียนจะต้องระบุข้อความว่า “ถือเป็นภาษีซื้อในเดือนภาษี…..”ไว้ในใบกำกับด้วย
- การยื่นภาษีซื้อแบบกระดาษ สามารถยื่นแบบ ภ.พ.30 แบบกระดาษในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป และหากเป็นการยื่นแบบผ่านระบบออนไลน์ จะขยายระยะเวลาเพิ่มอีก 8 วัน คือยื่นแบบได้ภายในวันที่ 23
ใบกำกับภาษีซื้อ ออกย้อนหลังได้หรือไม่
แม้ใบกำกับภาษีซื้อ จะสามารถนำไปยื่นเพื่อขอคืนเครดิตภาษีย้อนหลังได้ภายใน 6 เดือน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะออกใบกำกับภาษีย้อนหลังได้ ซึ่งตามกฎหมาย ผู้ประกอบการที่จด VAT จะต้องออกใบกำกับภาษีทันทีที่มีการซื้อขาย ส่งมอบ ได้รับการชำระเงินเรียบร้อย และการออกใบกำกับภาษีย้อนหลัง จะมีผลเป็นลูกโซ่ตามมา เพราะเลขที่ในเอกสารจะไม่เรียงลำดับ การทำบัญชีมีความยุ่งยากและเพิ่มขั้นตอนเข้าไปมากขึ้น ถูกสรรพากรเพ่งเล็ง และในกรณีร้ายแรงอาจจะถูกมองว่าเป็นการออกเอกสารเท็จเพื่อตกแต่งบัญชีได้เลย
ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ eTax ได้ที่
Blog: www.etaxgo.com/blog
Facebook: https://www.facebook.com/eTaxGo.official

