การยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล หรือ ภ.ง.ด. 50 ถือเป็นหน้าที่สำคัญของนิติบุคคลทุกแห่ง ซึ่งต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบในการคำนวณ เพื่อให้บริษัทได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุด สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ที่อาจยังมีความกังวลในขั้นตอนนี้ วันนี้เราจะมาปูพื้นฐานการยื่นภาษีนิติบุคคลให้เข้าใจง่ายและไม่ซับซ้อนกัน
ภ.ง.ด. 50 คืออะไร
ภ.ง.ด. 50 คือแบบแสดงรายการเสียภาษีนิติบุคคล ซึ่งนิติบุคคลทั้งบริษัทจำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด มีความจำเป็นที่จะต้องยื่นต่อกรมสรรพากรทุกปี โดยภาษีที่ยื่นนั้นจะคิดจากฐานของกำไรทางภาษีที่ผ่านการหักรายจ่ายต้องห้าม ไปแล้ว โดยที่ ภ.ง.ด. 50 จะเป็นการเสียภาษีที่อัตรา 20% ของกำไรสุทธิตั้งแต่บาทแรก
อย่างไรก็ตาม ทางกรมสรรพากรก็ได้มีข้อยกเว้นสำหรับการเสียภาษีนิติบุคคลสำหรับธุรกิจ SME ตามเงื่อนไขคือ เป็น 1.) ธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่เกิน 5,000,000 บาท 2.) มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท จะเข้าข่าย SME และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนี้
- กำไรทางภาษี 0 - 300,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี
- กำไรทางภาษี 300,001 - 3,000,000 บาท เสียภาษี 15%
- กำไรทางภาษี 3,000,000 บาทขึ้นไป เสียภาษี 20%
ภ.ง.ด. 51 คืออะไร แตกต่างอย่างไรกับ ภ.ง.ด. 50
ภ.ง.ด. 51 จะมีความคล้ายคลึงกับ ภ.ง.ด. 50 เพียงแต่ว่าจะเป็นการคำนวณภาษีเพียงช่วงครึ่งปีแรกของปีปฏิทิน หรือที่เรียกว่า ภาษีครึ่งปี โดยการคำนวณนั้นจะเป็นการใช้ฐานกำไรสุทธิที่ประมาณการจากกำไรทั้งปี และยื่นภายใน 2 เดือนหลังจากที่ครบครึ่งรอบปี
การยื่นภาษีครึ่งปีนั้น จะช่วยบริษัทในการจัดการเรื่องภาษีได้ง่ายขึ้น และไม่ทำให้ในช่วงสิ้นปีบริษัทต้องหาเงินก้อนจำนวนมากมาจ่ายภาษี แบ่งเบาภาระผู้ประกอบการและทำให้รัฐมีเงินไปหมุนเวียนใช้จ่าย และภาษีที่จ่ายไปแล้วสำหรับ ภ.ง.ด. 51 ยังนำมาเป็นเครดิตภาษีในการยื่น ภ.ง.ด. 50 ได้อีกด้วย
ความแตกต่างของ ภ.ง.ด 50 และ ภ.ง.ด 51
หัวข้อ | ภ.ง.ด. 50 | ภ.ง.ด. 51 |
|---|---|---|
ระยะเวลาที่นำมาคำนวณภาษี | 12 เดือน หรือ เต็มรอบบัญชี | 6 เดือน หรือ ครึ่งรอบบัญชี |
กำหนดเวลา | ภายใน 150 วันหลังจากที่ครบรอบเต็มปี | ภายใน 2 เดือนหลังจากที่ครบรอบครึ่งปี |
ฐานการคำนวณภาษี | กำไรสุทธิจริง | ประมาณการกำไรสุทธิ |
ความเสี่ยง | หากยื่นช้าอาจโดนปรับและถูกตรวจสอบ | หากประมาณกำไรต่ำเกินไปอาจโดนเงินเพิ่ม |
เครดิตทางภาษี | ใช้ ภ.ง.ด. 51 ที่จ่ายไว้แล้วมาเป็นเครดิตทางภาษีได้ | ไม่มีเครดิตทางภาษี |
ภ.ง.ด. 50 ยื่นได้ตอนไหน
การยื่นภาษี ภ.ง.ด. 50 แบบกระดาษ จะต้องยื่นภายใน 150 วันหลังจากวันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี หากงบการเงินปิดวันที่ 31 ธันวาคม วันสุดท้ายของการยื่นภาษี ภ.ง.ด. 50 คือวันที่ 30 พฤษภาคมของปีถัดไป แต่หากปีไหนที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน วันสุดท้ายของการยื่นภาษีจะอยู่ที่วันที่ 29 พฤษภาคม
ในกรณีที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ผ่านทางอินเทอร์เน็ต จะมีการขยายเวลาให้เพิ่มอีก 8 วัน ดังนั้นวันสุดท้ายของการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ผ่านอินเทอร์เน็ตคือวันที่ 7 มิถุนายนของปีถัดไป แต่หากปีไหนที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน วันสุดท้ายของการยื่นภาษีผ่านอินเทอร์เน็ตจะอยู่ที่วันที่ 6 มิถุนายน
ใครบ้างที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50
ผู้ที่ต้องยื่นแบบภาษี ภ.ง.ด. 50 จะต้องเป็นนิติบุคคลในไทย ได้แก่
- บริษัทจำกัด
- บริษัทมหาชน
- ห้างหุ้นส่วน
- สาขาของบริษัทต่างชาติที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
- นิติบุคคลอื่น ๆ ที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย
สิ่งที่ต้องมีก่อนยื่นพร้อม ภ.ง.ด. 50
ในปัจจุบันการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภ.ง.ด. 50 มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และสามารถยื่นแบบได้ผ่านออนไลน์ ซึ่งก่อนที่จะยื่นแบบนั้น ทางบริษัทจะต้องทำงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีก่อน และในงบการเงินนั้นจะต้องมีข้อมูลดังต่อไปนี้
- รายได้จากการประกอบกิจการ
- งบกำไร/ขาดทุน / งบดุล
- รายได้อื่น / รายจ่ายอื่น
- รายจ่ายในการขายและบริหาร
- รายการปรับปรุงทางภาษี / รายจ่ายต้องห้าม / รายได้ที่ยกเว้น / รายจ่ายที่มีสิทธิ์หักเพิ่ม
- รายการขาดทุนสุทธิที่มีสิทธิหักได้ตามกฎหมาย
- ภาษีที่ถูกหักไว้ระหว่างปี หรือ ภาษีครึ่งปี
- ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
- ภาษีที่ชำระแล้วตามแบบ ภ.ง.ด. 51
- งบแสดงสถานะการเงิน
- อื่น ๆ
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีความจำเป็นที่ต้องมีหลักฐานเช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี และหากกิจการมีรายได้เกิน 200 ล้านบาท ก็ต้องยื่นแบบรายงานประจำปีสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนที่มีความสัมพันธ์กันตามมาตรา 71 แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อควรรู้อื่น ๆ ก่อนยื่นภาษี ภ.ง.ด. 50
- สำหรับนิติบุคคลที่มีการขาดทุนสะสมไม่เกินระยะเวลา 5 รอบบัญชี สามารถนำผลขาดทุนนั้นมาหักเป็นรายจ่ายทางภาษีได้ แต่ต้องไม่เกินกำไรสุทธิของรอบบัญชีปีนั้น และต้องมีการแนบเอกสารผลขาดทุนสะสมของแต่ละปีมาด้วย
- กำไรหรือขาดทุนทางบัญชี ไม่เท่ากับกำไรหรือขาดทุนทางภาษี ต้องแยกให้ขาดออกจากกัน
- การที่บริษัทขาดทุน ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะไม่ต้องยื่น ภ.ง.ด. 50 เพราะเป็นไปได้ที่เมื่อมีการปรับปรุงรายได้และรายจ่ายแล้ว จะทำให้บริษัทมีกำไรทางภาษี แต่หากมีการหักลบต่าง ๆ แล้วบริษัทขาดทุนทางภาษี บริษัทก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่ยังคงต้องยื่น ภ.ง.ด. 50
ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ eTax ได้ที่
Blog: www.etaxgo.com/blog
Facebook: https://www.facebook.com/eTaxGo.official

